จังหวัดเพชรบุรี (/เพ็ดชะบุรี/; เดิมสะกดว่า เพ็ชร์บุรี[3]) เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันตก (บ้างก็จัดอยู่ในภาคกลางตอนล่าง ด้านของการพยากรณ์อากาศจัดอยู่ภาคใต้ตอนบน) มีภูมิประเทศทั้งเป็นที่สูงติดเทือกเขาและที่ราบชายฝั่งทะเล มักเรียกชื่อสั้น ๆ ว่า เมืองเพชร เดิมเรียก พริบพรี[4]
จังหวัดเพชรบุรี
บทความนี้เกี่ยวกับจังหวัดในประเทศไทย สำหรับความหมายอื่น ดูที่ เพชรบุรี (แก้ความกำกวม)
|
จังหวัดเพชรบุรีมีชื่อเสียงในฐานะแหล่งผลิตน้ำตาล เนื่องจากมีต้นตาลหนาแน่น เป็นเมืองเก่าแก่ มีประวัติศาสตร์ยาวนาน เพชรบุรีเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของไทยในกลุ่มหัวเมืองฝ่ายตะวันตก ปัจจุบันมีวัดเก่าแก่และบ้านเรือนทรงไทยจำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีคำพูดติดปากว่า นักเลงเมืองเพชร ปัจจุบันเพชรบุรีเป็นเมืองด่านสำคัญระหว่างภาคกลางและภาคใต้ และยังเป็นเมืองท่องเที่ยวที่สำคัญ เช่น หาดชะอำ หาดปึกเตียน หาดเจ้าสำราญ แหลมหลวง แหลมเหลว และเขื่อนแก่งกระจาน
เนื้อหา
ประวัติ[แก้]
เพชรบุรีเป็นเมืองที่เคยรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยโบราณและเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญของไทยในกลุ่มหัวเมืองฝ่ายตะวันตก มีการติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ มีหลักฐานชื่อเรียกปรากฏในหนังสือชาวต่างประเทศ เช่น ชาวฮอลันดาเรียกว่า “พิพรีย์” ชาวฝรั่งเศสเรียกว่า “พิพพีล์” และ “ฟิฟรี” จึงสันนิษฐานกันว่าชื่อ “เมืองพริบพรี” ซึ่งเป็นชื่อเดิมของเมืองเพชรบุรี ซึ่งสอดคล้องกับชื่อวัดพริบพลี ที่เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัด และที่วัดแห่งนี้ยังเป็นสถานที่ตั้งเสาชิงช้าอีกด้วยเพชรบุรี (ศรีชัยวัชรบุรี) เป็นเมืองเก่าแก่มาแต่โบราณ เคยเป็นอาณาจักรเล็ก ๆ อาณาจักรหนึ่ง บางสมัยมีเจ้าผู้ครองนครหรือกษัตริย์ปกครองเป็นอิสระ บางสมัยอาจจะตกเป็นเมืองขึ้นของอาณาจักรที่เข้มแข็งกว่า เจ้าผู้ครองนครได้ส่งเครื่องบรรณาการไปยังเมืองจีนเป็นประจำ เพชรบุรีมีปรากฏเป็นหลักฐานมาตั้งแต่สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 เช่น พระปรางค์ 5 ยอด ณ วัดมหาธาตุวรวิหาร และปราสาทหินศิลาแลง ณ วัดกำแพงแลงเป็นต้น โดยที่มาของชื่อเมืองนั้นอาจเรียกตามตำนานที่เล่าสืบกันมาว่าในสมัยโบราณเคยมีแสงระยิบระยับในเวลาค่ำคืนที่เขาแด่น ทำให้ชาวบ้านเข้าใจว่ามีเพชรพลอยบนเขานั้นจึงพากันไปค้นหาแต่ก็ไม่พบ จึงได้ออกค้นหาในเวลากลางคืนแล้วใช้ปูนที่ใช้สำหรับกินหมากป้ายเป็นตำหนิไว้เพื่อมาค้นหาในเวลากลางวัน แต่ก็ไม่พบ บ้างก็ว่าเรียกตามชื่อของแม่น้ำเพชรบุรี เมืองเพชรบุรีมีศิลปวัตถุมากมาย เป็นหลักฐานที่แสดงว่าเพชรบุรีเคยเป็นบ้านเมืองที่มีผู้คนอาศัยอยู่เป็นชุมชนถาวรมาตั้งแต่สมัยทวารวดี เช่น ศิลปะปูนปั้น
เมื่อถึงยุคของอาณาจักรสุโขทัย แม้อาณาจักรสุโขทัยสมัยพ่อขุนรามคำแหงแม้จะมีอำนาจครอบคลุมเพชรบุรี แต่เพชรบุรีก็ยังมีอิสระอยู่มาก สามารถส่งทูตไปจีนได้ ต้นวงศ์ของกษัตริย์เพชรบุรีในช่วงสมัยสุโขทัยคือ พระพนมทะเลศิริ ผู้เป็นเชื้อสายของพระเจ้าพรหมแห่งเวียงไชยปราการ ราชวงศ์นี้ได้ครองเมืองเพชรบุรีมาจนถึงสมัยพระเจ้าอู่ทองจึงได้เสด็จไปสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี
ในสมัยอยุธยาตอนต้น เพชรบุรีขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยาในแบบศักดินาสวามิภักดิ์มีขุนนางควบคุมเป็นชั้น ๆ ขึ้นไป แต่หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ อำนาจในส่วนกลางมีมากขึ้น เพชรบุรียังมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกรุงศรีอยุธยา ดังนั้นอำนาจจากส่วนกลางจึงมามีส่วนในการปกครองเพชรบุรีมากกว่าเดิม
ในสมัยพระมหาธรรมราชา พ.ศ. 2113 พระยาละแวก เจ้าเมืองเขมร ยกกองทัพมาที่อยุธยา มาสู้กับกองทัพอยุธยา สู้ไม่ได้ แพ้ หนีไป อีก 5 ปีต่อมา พ.ศ. 2118 พระยาละแวกยกทัพเรือมาที่อยุธยาอีก สู้อยุธยาไม่ได้อีก ยกกองทัพกลับไป พ.ศ. 2121 ทางเขมรได้ให้พระยาจีนจันตุยกทัพมาตีเมืองเพชรบุรี แต่ชาวเพชรบุรีป้องกันเมืองไว้ได้ พ.ศ. 2124 อยุธยาติดพันรบกับกบฏ พระยาละแวกก็เลยชิงยกกองทัพเรือมาเองมีกำลังประมาณ 7,000 คน เมืองเพชรบุรีจึงตกเป็นของเขมร จนถึงสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงตีเขมรชนะ เพชรบุรีจึงเป็นอิสระ โดยพ.ศ. 2136 สมเด็จพระนเรศวรฯ พิจารณานิสัย สันดานของเขมรแล้ว เจ็บช้ำพระทัย จึงยกกองทัพไปตีเขมร จับครอบครัวเอาไว้แล้วมาไว้ที่อยุธยา ตัดคอล้างพระบาท เพราะชอบฉกฉวยโอกาสขณะที่อยุธยาตีติดทัพที่อื่น แต่พระองค์ท่านยังมีพระเมตตา ให้โอกาสลูกชายคนโตของพระยาละแวก กลับไปปกครองเขมรต่อ แล้วให้ระบุว่า จะต้องไม่เป็นกบฏต่ออยุธยา และต้องเป็นเมืองขึ้นของสยามต่อไป และเนื่องจากทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรีเป็นพิเศษ จึงได้เสด็จมาประทับที่เมืองเพชรบุรีเป็นเวลาถึง 5 ปี ก่อนจะทรงยกทัพใหญ่ไปปราบพม่า และสวรรคตที่เมืองหาง
เจ้าเมืองเพชรบุรีและชาวเมืองเพชรบุรีได้ร่วมเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับข้าศึกหลายครั้ง นับตั้งแต่สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเชษฐาธิราชและสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ โดยเฉพาะในสมัยพระเทพราชานั้น การปราบปรามเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชซึ่ง แข็งเมือง พระยาเพชรบุรีได้เป็นกำลังสำคัญในการส่งเสบียงให้แก่กองทัพฝ่ายราชสำนักอยุธยา อย่างไรก็ดีเมืองเพชรบุรีถูกตีแตกอีกครั้ง เมื่อพม่าโดยมังมหานรธราได้ยกมาตีไทย จนไทยต้องเสียกรุงศรีอยุธยาแก่พม่าเป็นครั้งที่ 2 นั่นเอง
เพชรบุรีในสมัยกรุงธนบุรีและกรุงรัตนโกสินทร์
ตั้งแต่สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชจนถึงแผ่นดินสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ไทยยังคงทำสงครามกับพม่ามาโดยตลอดซึ่ง เจ้าเมืองและชาวเมืองเพชรบุรีก็ยังคงมีส่วนในการทำสงครามดังกล่าว จนเมื่อพม่าตกเป็นของอังกฤษ บทบาทของเมืองเพชรบุรีที่มีต่อเมืองหลวงและราชสำนักจึงค่อย ๆ เปลี่ยนไป
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงโปรดปรานเมืองเพชรบุรีตั้งแต่ครั้งยังผนวชอยู่เมื่อขึ้นครองราชย์แล้ว โปรดให้สร้างพระราชวัง วัด และพระเจดีย์ใหญ่ขึ้นบนเขาเตี้ย ๆ ใกล้กับตัวเมืองและพระราชทานนามว่า “พระนครคีรี” ต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวังอีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองเพชรบุรี คือ “พระรามราชนิเวศน์” หรือที่เรียกกันภาษาชาวบ้านว่า “วังบ้านปืน” และด้วยความเชื่อที่ว่าอากาศชายทะเลและน้ำทะเลอาจบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชวัง “พระราชนิเวศน์มฤคทายวัน” ขึ้นที่ชายหาดชะอำเพื่อใช้เป็นที่ประทับรักษาพระองค์
ภูมิศาสตร์[แก้]
อาณาเขต[แก้]
จังหวัดเพชรบุรีอยู่ห่างจากกรุงเทพมหานคร ตามเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 35 ระยะทางประมาณ 123 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 6,225.138 ตารางกิโลเมตรหรือ 3,890,711.20 ไร่ โดยมีส่วนที่กว้างที่สุดวัดได้ 103 กิโลเมตรจากทิศตะวันออก-ตะวันตกและส่วนที่ยาวที่สุดวัดได้ 80 กิโลเมตรจากทิศเหนือ-ใต้ มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดและประเทศใกล้เคียงต่อไปนี้- ด้านเหนือ ติดกับอำเภอปากท่อ จังหวัดราชบุรี และอำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
- ด้านตะวันออก ติดชายฝั่งอ่าวไทย (น่านน้ำติดต่อตรงข้ามกับน่านน้ำจังหวัดชลบุรี ด้านทิศใต้จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ด้านทิศเหนือ น่านน้ำจังหวัดสมุทรสงคราม น่านน้ำจังหวัดสมุทรสาคร น่านน้ำกรุงเทพมหานคร และน่านน้ำจังหวัดสมุทรปราการ) จากจุดอักษร ก. ตำบลห้วยทรายเหนือ อำเภอชะอำ ละติจูด 12 องศา-35 ลิปดา45 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 49 องศา-47 ลิปดา-30 ฟิลิปดาตะวันออก; ขนานกับเส้นละติจูดไปถึงจุดหมายเลข (1) ละติจูด 12 องศา-35 ลิปดา-45 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา-27 ลิปดา-30 ฟิลิปดาตะวันออก จากจุดอักษร ข. บนเส้นแบ่งเขตจังหวัดระหว่างจังหวัดเพชรบุรีกับจังหวัดสมุทรสงครามไปถึงจุดหมายเลข (2) ละติจูด 13 องศา-13 ลิปดา-00 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา-10 ลิปดา-00 ฟิลิปดาตะวันออก; แล้วขนานกับเส้นละติจูดไปถึงจุดหมายเลข (3), ละติจูด 13 องศา-13 ลิปดา-00 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา-27 ลิปดา-30 ฟิลิปดาตะวันออก จากจุดหมายเลข (3) ละติจูด 13 องศา-13 ลิปดา-00 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา-27 ลิปดา-30 ฟิลิปดาตะวันออก; ขนานกับเส้นลองจิจูดไปบรรจบกันที่จุดหมายเลข (1) ละติจูด 12 องศา-35 ลิปดา-45 ฟิลิปดาเหนือ, ลองจิจูด 100 องศา-27 ลิปดา-30 ฟิลิปดาตะวันออก
- ด้านใต้ ติดกับอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
- ด้านตะวันตก ติดกับเขตตะนาวศรีของประเทศพม่า
ภูมิประเทศ[แก้]
พื้นที่ด้านตะวันตกเป็นป่าไม้และภูเขาสูงสลับซับซ้อน มีเทือกเขาตะนาวศรีเป็นเส้นกั้นอาณาเขตระหว่างไทยกับพม่า เฉพาะในเขตจังหวัดเพชรบุรีมีความยาวประมาณ 120 กิโลเมตร แม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน 3 สาย ได้แก่ แม่น้ำเพชรบุรี มีความยาวตลอดสาย 227 กิโลเมตร แม่น้ำบางกลอย มีความยาว 44 กิโลเมตร และแม่น้ำบางตะบูน มีความยาว 18 กิโลเมตร มีประชากรอาศัยหนาแน่นทางตะวันออกของพื้นที่ ซึ่งเป็นที่ราบลุ่มชายฝั่งทะเล ลักษณะภูมิประเทศจังหวัดเพชรบุรี แบ่งเป็น 3 เขต คือก. เขตภูเขาและที่ราบสูง อยู่ทางด้านตะวันตกของจังหวัดติดกับพม่าในบริเวณอำเภอแก่งกระจานและอำเภอหนองหญ้าปล้อง มีภูเขาสูงและเป็นบริเวณที่สูงชันของจังหวัด มีลักษณะเป็นเทือกเขาทอดยาวจากเหนือมาใต้ พื้นที่ถัดจากบริเวณนี้จะค่อย ๆ ลาดต่ำลงมาทางด้านตะวันออก บริเวณนี้เป็นต้นกำเนิดแม่น้ำเพชรบุรีและแม่น้ำปราณบุรี
ข. เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำ บริเวณตอนกลางของจังหวัดซึ่งอุดมสมบูรณ์ที่สุด มีแม่น้ำเพชรบุรีซึ่งเป็นแม่น้ำสายสำคัญไหลผ่าน และมีเขื่อนแก่งกระจานและเขื่อนเพชรบุรีซึ่งเป็นแหล่งน้ำระบบชลประทาน บริเวณนี้เป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญของจังหวัด เขตนี้คือบริเวณบางส่วนของอำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอท่ายาง อำเภอชะอำ อำเภอบ้านลาด อำเภอบ้านแหลม และอำเภอเขาย้อย
ค. เขตที่ราบฝั่งทะเล อยู่ทางด้านตะวันออกของจังหวัด ติดกับชายฝั่งทะเลด้านอ่าวไทย บริเวณนี้นับเป็นแหล่งเศรษฐกิจที่สำคัญยิ่งของจังหวัดในด้านการประมง การท่องเที่ยว เขตนี้ได้แก่ บางส่วนของอำเภอเมืองเพชรบุรี อำเภอบ้านแหลม อำเภอท่ายาง และอำเภอชะอำ ลักษณะพื้นที่ชายฝั่งเพชรบุรี เหนือแหลมหลวงไปทางทิศเหนือเป็นพื้นที่ชายฝั่งหาดโคลน มีระบบนิเวศป่าชายเลน ด้านทิศใต้ของแหลมหลวงลงไปด้านทิศใต้เป็นหาดทราย มีระบบนิเวศเป็นหาดทราย แหลมหลวงซึ่งอยู่ในพื้นที่ตำบลแหลมผักเบี้ยจึงเป็นแหลมที่แบ่งระบบนิเวศป่าชายเลน ออกจากระบบนิเวศหาดทราย เหนือแหลมหลวงขึ้นไปด้านทิศเหนือมีลักษณะเป็นหาดโคลนเพราะอยู่ใกล้พื้นที่ชุมน้ำของแม่น้ำสายใหญ่ ได้แก่ แม่น้ำเพชรบุรี แม่น้ำบางตะบูน แม่น้ำแม่กลอง แม่น้ำท่าจีน และแม่น้ำบางปะกง เมื่อฤดูน้ำหลากน้ำจากแม่น้ำได้พัดพาตะกอนลงสู่ทะเลเป็นจำนวนมาก จึงส่งผลให้พื้นที่ของชายฝั่งแถบนี้มีตะกอนในน้ำสูง ส่งผลให้ชายฝั่งมีโคลนจำนวนมาก ซึ่งเหมาะแก่ระบบนิเวศป่าชายเลน เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ทะเล บริเวณอ่าวไทยในเขตอำเภอบ้านแหลมถือว่าเป็นอ่าวที่พบหอยหลากชนิด เช่น หอยเสียบ หอยปากเป็ด หอยตระกาย หอยตลับ หอยหลอด หอยแครง เป็นต้น โดยเฉพาะหอยแครง เป็นแหล่งที่พบมากที่สุดในโลก ภายหลังได้มีการตัดไม้ป่าชายเลนนำไปเผาถ่าน ทำลายป่าเพื่อทำนากุ้งกุลาดำ จึงส่งผลให้ป่าชายเลนถูกทำลายเป็นจำนวนมาก
ลักษณะภูมิอากาศ[แก้]
จังหวัดเพชรบุรีอยู่ติดอ่าวไทยจึงได้รับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันออกเฉียงใต้ในฤดูฝน ซึ่งมีผลทำให้ฝนตกชุก และอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือในช่วงฤดูหนาว จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นในช่วงเวลาดังกล่าว สามารถแบ่งฤดูกาลออกเป็น 3 ฤดู- ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม-เมษายน อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 32.13 องศาเซลเซียส
- ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม-พฤศจิกายน ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยปีละ 959.5 มิลลิเมตร
- ฤดูหนาว เริ่มตั้งแต่เดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด 24.16 องศาเซลเซียส
ทรัพยากร[แก้]
- ทรัพยากรป่าไม้
- ทรัพยากรป่าชายเลน
- ทรัพยากรน้ำ
- สัตว์ป่า
- สัตว์น้ำ
- การค้าขายในแม่น้ำเพชรบุรี
- สะพานจอมเกล้าในอดีต
ชายฝั่งทะเลสมเด็จพระนเรศมหาราช[แก้]
ชายฝั่งทะเลสมเด็จพระนเรศมหาราช เป็นชายฝั่งทะเลในพื้นที่แหลมผักเบี้ย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เรียกชื่อชายฝั่งทะเลของจังหวัดเพชรบุรี-จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีความยาว 200 กิโลเมตร [6] มีความยาวคอดไปถึงอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ [7] เพื่อแสดงถึงวีรกรรม พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและเพื่อประกาศพระเกียรติคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ให้ปรากฏพระนามบนแผนที่ [8]
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้
|
อุทยาน[แก้]
หน่วยการปกครอง[แก้]
จังหวัดเพชรบุรีมีรูปแบบการปกครองและการบริหารราชการแผ่นดิน 3 รูปแบบ คือ1. การบริหารราชการส่วนกลาง ประกอบด้วยหน่วยงานสังกัดส่วนกลางซึ่งมาตั้งหน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ จำนวน 75 ส่วนราชการ
2. การบริหารราชการส่วนภูมิภาค มีหน่วยราชการที่อยู่ในความควบคุมดูแลของผู้ว่าราชการจังหวัด คือ ส่วนราชการต่าง ๆ ในระดับจังหวัด และอำเภอ ส่วนราชการในระดับจังหวัดเป็นหน่วยงาน 2 ลักษณะ คือ หน่วยราชการบริหาร ส่วนภูมิภาคประจำจังหวัด และหน่วยราชการบริหารส่วนกลางในจังหวัด (ขึ้นตรงต่อส่วนกลาง) หน่วยราชการบริหารส่วนภูมิภาคประจำจังหวัดของจังหวัดเพชรบุรีมีทั้งสิ้น 33 หน่วยงาน สังกัดกระทรวงมหาดไทย 8 หน่วยงาน และสังกัดกระทรวง ทบวง กรมอื่น ๆ 26 หน่วยงาน
- ระดับจังหวัด ประกอบด้วยส่วนราชการประจำจังหวัด จำนวน 26 ส่วนราชการ
- ระดับอำเภอ ประกอบด้วย 8 อำเภอ 93 ตำบล 698 หมู่บ้าน
- เทศบาลเมือง 2 แห่ง :: เทศบาลเมืองเพชรบุรี และ เทศบาลเมืองชะอำ
จังหวัด | ลำดับ ที่ | ชื่อ | อำเภอที่ตั้ง | เนื้อที่ (ตร.กม.) | ประชากร สิ้นปี 2555 (คน)[9] | ความหนาแน่น (คน/ตร.กม.) | ปีที่ได้รับการจัดตั้งเป็นเทศบาลเมือง | ชื่อและ/หรือฐานะ ก่อนหน้า |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
เพชรบุรี | 1 | เทศบาลเมืองชะอำ | ชะอำ |
110.00
|
34,151
|
310.46
| 2547 | เทศบาลตำบลชะอำ |
2 | เทศบาลเมืองเพชรบุรี | เมืองเพชรบุรี |
5.40
|
23,811
|
4,409.44
| 2478 [10] | สุขาภิบาลเมืองเพชรบุรี |
- เทศบาลตำบล 13 แห่ง จำแนกตามอำเภอได้ดังนี้
อำเภอ | ลำดับที่ | ชื่อเทศบาล | ครอบคลุมตำบล (ตาม พ.ร.บ. ลักษณะปกครองท้องที่) | ปีที่ได้รับการ จัดตั้งเป็น เทศบาลตำบล | ชื่อและ/หรือฐานะก่อนหน้า | |
---|---|---|---|---|---|---|
เต็มพื้นที่ | ไม่เต็มพื้นที่ (เฉพาะบางส่วนหรือส่วนใหญ่) | |||||
เมืองเพชรบุรี | 1 | เทศบาลตำบลหนองขนาน | หนองขนาน | – | 2555 | องค์การบริหารส่วนตำบลหนองขนาน |
2 | เทศบาลตำบลหัวสะพาน | วังตะโก, หัวสะพาน | – | 2542 | สุขาภิบาลหัวสะพาน | |
3 | เทศบาลตำบลหาดเจ้าสำราญ | หาดเจ้าสำราญ | – | 2542 | สุขาภิบาลหาดเจ้าสำราญ | |
เขาย้อย | 1 | เทศบาลตำบลเขาย้อย | บางเค็ม | เขาย้อย, ทับคาง, สระพัง | 2542 | สุขาภิบาลเขาย้อย |
ชะอำ | 1 | เทศบาลตำบลนายาง | เขาใหญ่, ดอนขุนห้วย, นายาง | – | 2542 | สุขาภิบาลนายาง |
2 | เทศบาลตำบลบางเก่า | บางเก่า | – | 2555 | องค์การบริหารส่วนตำบลบางเก่า | |
ท่ายาง | 1 | เทศบาลตำบลท่าไม้รวก | ท่าไม้รวก | – | 2551 | องค์การบริหารส่วนตำบลท่าไม้รวก |
2 | เทศบาลตำบลท่ายาง | ท่ายาง | ท่าคอย | 2542 | สุขาภิบาลท่ายาง | |
3 | เทศบาลตำบลท่าแลง | ท่าแลง | – | 2551 | องค์การบริหารส่วนตำบลท่าแลง | |
4 | เทศบาลตำบลหนองจอก | – | หนองจอก | 2542 | สุขาภิบาลหนองจอก | |
บ้านลาด | 1 | เทศบาลตำบลบ้านลาด | บ้านลาด | – | 2542 | สุขาภิบาลบ้านลาด |
บ้านแหลม | 1 | เทศบาลตำบลบางตะบูน | – | บางตะบูน, บางตะบูนออก | 2542 | สุขาภิบาลบางตะบูน |
2 | เทศบาลตำบลบ้านแหลม | – | บ้านแหลม | 2542 | สุขาภิบาลบ้านแหลม |
- องค์การบริหารส่วนตำบล 69 แห่ง จำแนกตามอำเภอได้ดังนี้
- อำเภอเมืองเพชรบุรี :: องค์การบริหารส่วนตำบลบางจาน องค์การบริหารส่วนตำบลนาพันสาม องค์การบริหารส่วนตำบลธงชัย องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านกุ่ม องค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ส้ม องค์การบริหารส่วนตำบลบางจาก องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อ องค์การบริหารส่วนตำบลต้นมะม่วง องค์การบริหารส่วนตำบลช่องสะแก องค์การบริหารส่วนตำบลนาวุ้ง องค์การบริหารส่วนตำบลสำมะโรง องค์การบริหารส่วนตำบลโพพระ องค์การบริหารส่วนตำบลต้นมะพร้าว องค์การบริหารส่วนตำบลโพไร่หวาน องค์การบริหารส่วนตำบลดอนยาง และ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองพลับ
- อำเภอเขาย้อย :: องค์การบริหารส่วนตำบลเขาย้อย องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปลาไหล องค์การบริหารส่วนตำบลหนองปรง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองชุมพล องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยโรง องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยท่าช้าง และ องค์การบริหารส่วนตำบลหนองชุมพลเหนือ
- อำเภอหนองหญ้าปล้อง :: องค์การบริหารส่วนตำบลหนองหญ้าปล้อง องค์การบริหารส่วนตำบลยางน้ำกลัดใต้ และ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าตะคร้อ
- อำเภอชะอำ :: องค์การบริหารส่วนตำบลหนองศาลา องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยทรายเหนือ องค์การบริหารส่วนตำบลไร่ใหม่พัฒนา และ องค์การบริหารส่วนตำบลสามพระยา
- อำเภอท่ายาง :: องค์การบริหารส่วนตำบลท่าคอย องค์การบริหารส่วนตำบลยางหย่อง องค์การบริหารส่วนตำบลหนองจอก องค์การบริหารส่วนตำบลมาบปลาเค้า องค์การบริหารส่วนตำบลวังไคร้ องค์การบริหารส่วนตำบลกลัดหลวง องค์การบริหารส่วนตำบลปึกเตียน องค์การบริหารส่วนตำบลเขากระปุก และ องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านในดง
- อำเภอบ้านลาด :: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหาด องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านทาน องค์การบริหารส่วนตำบลตำหรุ องค์การบริหารส่วนตำบลสมอพลือ องค์การบริหารส่วนตำบลไร่มะขาม องค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสน องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกระเจ็ด องค์การบริหารส่วนตำบลหนองกะปุ องค์การบริหารส่วนตำบลไร่โคก องค์การบริหารส่วนตำบลโรงเข้ องค์การบริหารส่วนตำบลไร่สะท้อน องค์การบริหารส่วนตำบลท่าช้าง องค์การบริหารส่วนตำบลถ้ำรงค์ และ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยลึก
- อำเภอบ้านแหลม :: องค์การบริหารส่วนตำบลบ้านแหลม องค์การบริหารส่วนตำบลบางขุนไทร องค์การบริหารส่วนตำบลปากทะเล องค์การบริหารส่วนตำบลบางแก้ว องค์การบริหารส่วนตำบลแหลมผักเบี้ย องค์การบริหารส่วนตำบลบางตะบูน องค์การบริหารส่วนตำบลบางครก องค์การบริหารส่วนตำบลท่าแร้ง และ องค์การบริหารส่วนตำบลท่าแร้งออก
- อำเภอแก่งกระจาน :: องค์การบริหารส่วนตำบลแก่งกระจาน องค์การบริหารส่วนตำบลสองพี่น้อง องค์การบริหารส่วนตำบลวังจันทร์ องค์การบริหารส่วนตำบลป่าเด็ง องค์การบริหารส่วนตำบลพุสวรรค์ และ องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยแม่เพรียง
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด[แก้]
- ดอกไม้ประจำจังหวัด: จังหวัดเพชรบุรีไม่มีการกำหนดดอกไม้ประจำจังหวัดอย่างเป็นทางการ แต่ได้ใช้ดอกลั่นทมเป็นสัญลักษณ์เสมือนเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดโดยตลอด
- ต้นไม้ประจำจังหวัด: หว้า (Eugenia cumini)
- คำขวัญประจำจังหวัด: เขาวังคู่บ้าน ขนมหวานเมืองพระ เลิศล้ำศิลปะ แดนธรรมะ ทะเลงาม
- อักษรย่อ: พบ
รายพระนามและรายนามผู้ปกครอง[แก้]
รายพระนามกษัตริย์ผู้ครองแคว้น[แก้]
ลำดับ | พระนาม/นาม | ตำแหน่ง | ราชวงศ์ | ช่วงเวลา |
---|---|---|---|---|
1 | พระพนมทะเลศรีมเหนทราชาธิราช | กษัตริย์เพชรบุรี | - | ไม่ทราบปี |
2 | พระพนมไชยศิริ | กษัตริย์เพชรบุรี | - | ไม่ทราบปี |
3 | พระกฤติสาร | กษัตริย์เพชรบุรี | - | ไม่ทราบปี |
4 | พระอินทราชา | กษัตริย์เพชรบุรี | - | ไม่ทราบปี |
5 | พระเจ้าอู่ทอง | กษัตริย์เพชรบุรี | - | ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1748 |
เพชรบุรี: ไม่ทราบปี - พ.ศ. 1748; อโยธยา:พ.ศ. 1748 - 1796[11] | ||||
6 | เจ้าสาม | กษัตริย์เพชรบุรี | - | พ.ศ. 1748 - ไม่ทราบปี |
- | - | - | - | - |
- | เจ้าวรเชษฐ์ | กษัตริย์เพชรบุรี | สายน้ำผึ้ง | หลัง พ.ศ. 1868 - 1887 |
เพชรบุรี: หลัง พ.ศ. 1868 - 1887; อโยธยา: พ.ศ. 1887 - 1893; อยุธยา: พ.ศ. 1893 - 1912 |
รายนามเจ้าเมืองและผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี[แก้]
รายพระนามและรายนามผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
พระนาม/ชื่อ | เข้ารับตำแหน่ง | สิ้นสุดการดำรงตำแหน่ง | |||||||
1. พระยาเพชรบุรี (ฟู) | พ.ศ. 2325 | พ.ศ. 2325 | |||||||
2. พระยมราช (ทองสุก) | ไม่มีข้อมูล | ไม่มีข้อมูล | |||||||
3. พระยามหาตาลวันปเทโส (เกตุ) | ไม่มีข้อมูล | ไม่มีข้อมูล | |||||||
4. พระยาสุรินทรฦาชัย (บัว) | พ.ศ. 2399 | พ.ศ. 2401 | |||||||
5. เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) (ต่อมาเป็นพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์) | พ.ศ. 2401 | พ.ศ. 2437 | |||||||
6. พระยาเพชรพิสัยศรีสวัสดิ์ (เทียน บุนนาค) (ต่อมาเป็นพระยาอัมรินทรฦาชัย) | พ.ศ. 2437 | พ.ศ. 2440 | |||||||
7. พระยาสุรินทรฤๅชัย (เทียม บุนนาค) | พ.ศ. 2440 | พ.ศ. 2442 | |||||||
8. พระยาสุรินทรฤๅชัย (เทียน บุนนาค) (ต่อมาเป็นพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์) | พ.ศ. 2442 | พ.ศ. 2456 | |||||||
9. พระยาเพชรพิสัยศรีสวัสดิ์ (แป้น วสันตสิงห์) | พ.ศ. 2456 | พ.ศ. 2460 | |||||||
10. พระยาสุรินทรฦาชัย (ทอง จันทรางศุ) | พ.ศ. 2460 | พ.ศ. 2461 | |||||||
11. พระยาพัชรินทรฦาชัย (ธูป โอสถานนท์) | พ.ศ. 2461 | พ.ศ. 2465 | |||||||
12. พระยาสุรพันธ์เสนี (อิ้น บุนนาค) | พ.ศ. 2465 | พ.ศ. 2469 | |||||||
13. พระยาจันตรักษ์ (จำลอง สวัสดิ์ชูโต) | พ.ศ. 2469 | พ.ศ. 2473 | |||||||
14. พระยาวิเศษฤๅชัย (ม.ล.เจริญ อิศรางกูร) | พ.ศ. 2473 | พ.ศ. 2476 | |||||||
15. พ.อ.หลวงอาจศรศิลป์ (เป้า ธนพุทธิ) | พ.ศ. 2476 | พ.ศ. 2479 | |||||||
16. พระบำรุงบุรีราช (วิง หรือ บำรุง สิทธิเทศานนท์) | พ.ศ. 2479 | พ.ศ. 2484 | |||||||
17. หลวงอรรถวิจิตรจรรยารักษ์ (กังวาน วงศ์สกุล) | พ.ศ. 2484 | พ.ศ. 2485 | |||||||
18. หลวงอรรถเกษมทาษา (สวิง อรรถเกษม) | พ.ศ. 2485 | พ.ศ. 2485 | |||||||
19. หลวงอรรถสิทธิสุนทร (พล.ต.อรรถสิทธิ์ สิทธิสุนทร) | พ.ศ. 2485 | พ.ศ. 2487 | |||||||
20. ร.อ.ขุนชาญใช้จักร ร.น. (ชาญ ชาญใช้จักร) | พ.ศ. 2487 | พ.ศ. 2487 | |||||||
21. พระบำรุงบุรีราช (วิง หรือ บำรุง สิทธิเทศานนท์) | พ.ศ. 2487 | พ.ศ. 2488 | |||||||
22. หลวงอรรถวิภาคไพศาลย์ (กระจ่าง อรรถวิภาคไพศาลย์) | พ.ศ. 2488 | พ.ศ. 2488 | |||||||
23. หลวงจรูญ บูรกิจ (จรูญ ณ สงขลา) | พ.ศ. 2488 | พ.ศ. 2488 | |||||||
24. ร.ท.ขุนวรกิจโกศล (ถวิล ระวังศัย) | พ.ศ. 2488 | พ.ศ. 2489 | |||||||
25. ขุนสนิทประชากร (ชลาด สนิทประชากร) | พ.ศ. 2489 | พ.ศ. 2490 | |||||||
26. พระสมัครสโมสร (เสงี่ยม สมัครสโมสร) | พ.ศ. 2490 | พ.ศ. 2492 | |||||||
27. ขุนบุริรักษ์บทวรัญช์ (ชุ่ม บริรักษ์บทวรัญช์) | พ.ศ. 2492 | พ.ศ. 2493 | |||||||
28. นายสนิท วิไลจิตต์ | พ.ศ. 2493 | พ.ศ. 2494 | |||||||
29. นายแสวง ทิมทอง | พ.ศ. 2494 | พ.ศ. 2495 | |||||||
30. นายวิทูร จักกะพาก | พ.ศ. 2495 | พ.ศ. 2496 | |||||||
31. นายบุญยฤทธิ์ นาคีนพคุณ | พ.ศ. 2496 | พ.ศ. 2497 | |||||||
32. นายสาย หุตะเจริญ | พ.ศ. 2497 | พ.ศ. 2497 | |||||||
33. นายเกษม สุขุม | พ.ศ. 2497 | พ.ศ. 2499 | |||||||
34. นายชาติ บุณยรัตพันธุ์ | พ.ศ. 2499 | พ.ศ. 2501 | |||||||
35. นายจาด อุรัสยะนันทน์ | พ.ศ. 2501 | พ.ศ. 2511 | |||||||
36. นายเอนก พยัคฆันตร | พ.ศ. 2511 | พ.ศ. 2516 | |||||||
37. นายประเวส เรืองจรัส | พ.ศ. 2516 | พ.ศ. 2518 | |||||||
38. นายประชุม บุญประคอง | พ.ศ. 2518 | พ.ศ. 2519 | |||||||
39. นายศุภโยค พานิชวิทย์ | พ.ศ. 2519 | พ.ศ. 2523 | |||||||
40. นายชัด รัตนราช | พ.ศ. 2523 | พ.ศ. 2527 | |||||||
41. นายเชาวน์วัศ สุดลาภา | พ.ศ. 2527 | พ.ศ. 2531 | |||||||
42. พ.ต.อรุณ สังฆสุบรรณ | พ.ศ. 2531 | พ.ศ. 2532 | |||||||
43. นายอเนก โรจนไพบูลย์ | พ.ศ. 2532 | พ.ศ. 2534 | |||||||
44. นายสุชาญ พงษ์เหนือ | พ.ศ. 2534 | พ.ศ. 2536 | |||||||
45. นายคงศักดิ์ ลิ่วมโนมนต์ | พ.ศ. 2536 | พ.ศ. 2539 | |||||||
46. นายวิมล พวงทอง | พ.ศ. 2539 | พ.ศ. 2540 | |||||||
47. นายสมบัติ สืบสมาน | พ.ศ. 2540 | พ.ศ. 2540 | |||||||
48. นายศิวะ แสงมณี | พ.ศ. 2540 | พ.ศ. 2541 | |||||||
49. นายชูชาติ พูลศิริ | พ.ศ. 2541 | พ.ศ. 2542 | |||||||
50. นายนิรันดร์ชัย เพชรสิงห์ | พ.ศ. 2542 | พ.ศ. 2546 | |||||||
51. นายกิตติพงษ์ สุนานันท์ | พ.ศ. 2546 | พ.ศ. 2547 | |||||||
52. นายประสงค์ พิทูรกิจจา | พ.ศ. 2547 | พ.ศ. 2549 | |||||||
53. นายสยุมพร ลิ่มไทย | พ.ศ. 2549 | พ.ศ. 2551 | |||||||
54. นายชาย พานิชพรพันธุ์ | พ.ศ. 2551 | พ.ศ. 2554 | |||||||
55. นายวินัย บัวประดิษฐ์ | พ.ศ. 2554 | พ.ศ. 2555 | |||||||
56. นายมณเฑียร ทองนิตย์ | พ.ศ. 2555 | พ.ศ. 2558 | |||||||
57. นายสนิท ขาวสอาด | พ.ศ. 2558 | พ.ศ. 2559 | |||||||
58. นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี | พ.ศ. 2559 | ปัจจุบัน |
ประชากร[แก้]
ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 30 กันยายน 2550 จังหวัดเพชรบุรีมีประชากร จำนวน 456,061 คน เป็นชาย 220,847 คน หญิง 235,214 คน จำนวนบ้าน 156,457 หลังคาเรือน ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ (ร้อยละ 97.35) และศาสนาอื่น ๆ ได้แก่ ศาสนาอิสลาม (ร้อยละ 2.49) และศาสนาคริสต์ (ร้อยละ 0.16) นอกนั้นเป็นศาสนาอื่น ๆ รายได้ต่อหัวของประชากรจังหวัดเพชรบุรี ปี พ.ศ. 2549 คือ 102,202 บาท/คน/ปีสถานศึกษา[แก้]
ดูเพิ่มเติมที่: รายชื่อโรงเรียนในจังหวัดเพชรบุรี
มหาวิทยาลัย - มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย หน่วยวิทยบริการจังหวัดเพชรบุรี
- มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย ศูนย์การศึกษาเพชรบุรี
- มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตสารสนเทศเพชรบุรี
- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ศูนย์วิทยพัฒนา
- มหาวิทยาลัยเวบสเตอร์
- มหาวิทยาลัยนานาชาติสแตมฟอร์ด
- มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ[แก้]
- วัดโคมนาราม (ที่จมทะเลไปแล้ว) - วัดโคมนาราม (วัดในบางแก้ว) ปัจจุบันได้ย้ายเข้ามาในแผ่นดินแล้ว สำหรับวัดที่อยู่ที่เดิมได้จมลงในทะเลไปแล้ว หลังจากได้มีการกัดเซาะของกระแสน้ำในทะเลอย่างรุนแรง ยากต่อการป้องกัน ซึ่งหลังจากได้มีการศึกษาจากสถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชียได้ศึกษาและได้ทำการหาวิธีป้องกัน ลดผลกระทบ ในปัจจุบันความรุนแรงของปัญหาการกัดเซาะได้ลดลงบ้าง
- วัดปากน้ำ - ท่าหิน เพชรบุรี เป็นวัดร้างที่คงหลงเหลืออยู่แค่พระพุทธรูปกับซุ้มเท่านี้ อยู่ถนนโพธิ์การ้องใกล้สี่แยกท่าหินที่ไปบางแก้ว
- วัดปีป - เป็นวัดร้างที่ตั้งอยู่ข้างรางรถไฟในเขตตำบลช่องสะแก อำเภอเมืองเพชรบุรี
บุคคลที่มีชื่อเสียง[แก้]
- พระสงฆ์
- สมเด็จพระพุฒาจารย์ (วน ฐิติญาโณ) สมเด็จพระราชาคณะ อดีตผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช อดีตเจ้าคณะใหญ่หนใต้ อดีตกรรมการมหาเถรสมาคม อดีตเจ้าอาวาสวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร
- พระครูญาณวิลาศ (แดง รตฺโต) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขาบันไดอิฐ
- นักการเมือง
- พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ อดีตนายกรัฐมนตรี, อดีตผู้บัญชาการทหารบก, องคมนตรี
- อลงกรณ์ พลบุตร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์
- อรรถพร พลบุตร อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบุรี พรรคประชาธิปัตย์
- เจตน์ ศิรธรานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภา อดีตสมาชิสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
- ข้าราชการ
- เจ้าพระยาสุรพันธ์พิสุทธิ์ (เทศ บุนนาค) ปลัดเมืองเพชรบุรี, ผู้ว่าราชการเมืองเพชรบุรี, ราชการจรในเมืองราชบุรี, ข้าหลวงเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี
- ว่าที่ร้อยตรี เชิดศักดิ์ จำปาเทศ อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง
- ถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ
- พลตำรวจเอก ณรงค์ มหานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ
- พลตำรวจเอก จงรัก จุฑานนท์ อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล
- นักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญ
- ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา
- ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
- ศิลปิน นักร้อง นักแสดง
- ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์
- พูน เกษจำรัส ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์
- ทองร่วง เอมโอษฐ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์
- เนื่อง แฝงสีคำ ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์
- มิตร ชัยบัญชา นักแสดง
- ก้องไพร ลูกเพชร นักร้องลูกทุ่งไทย
- กังวาลไพร ลูกเพชร นักร้องลูกทุ่งไทย
- ไพรวัลย์ ลูกเพชร นักร้องลูกทุ่งไทย
- พนมไพร ลูกเพชร นักร้องลูกทุ่งไทย
- รุ่งเพชร แหลมสิงห์ นักร้องลูกทุ่งไทย
- พิษณุ นิลกลัด ผู้ประกาศข่าว พิธีกร ผู้บรรยายกีฬา นักเขียน
- ณัฐวุฒิ สกิดใจ ดารานักแสดง
- วรวุฒิ นิยมทรัพย์ ดารานักแสดง
- ภูษณะ บัวงาม ดารานักแสดง ช่อง 7
- นรารักษ์ ใจบำรุง ศิลปินจากค่าย GMM Grammy
- สราวุฒิ พุ่มทอง ดารานักแสดง
- ทวีพร พริ้งจำรัส รองอันดับ 3 มิสแกรนด์ไทยแลนด์ 2017, รองอันดับ 3 มิสยูไนเต็ดคอนติเนนท์ 2017 (การประกวดระดับนานาชาติ)
- เจนนิษฐ์ โอ่ประเสริฐ (เจนนิษฐ์ BNK48)
- นักกีฬา
- วีณา โชคเผ่าอำไพ นักกีฬาเยาวชนแห่งชาติ
- นักปราบสัมภเวสี ผี และวิญญาณ
- จีระพันธ์ เพชรขาว (หมอปลา มือปราบสัมภเวสี)
อ้างอิง[แก้]
- กระโดดขึ้น ↑ ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
- กระโดดขึ้น ↑ กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ประกาศสำนักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.bora.dopa.go.th/stat/pk/pk_57.pdf 2560. สืบค้น 23 กุมภาพันธ์ 2561.
- กระโดดขึ้น ↑ ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง เปลี่ยนชื่ออำเภอ. ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 34 ตอนที่ ๐ก วันที่ 29 เมษายน 2460
- กระโดดขึ้น ↑ ประวัติศาสตร์-ความเป็นมาเพชรบุรี http://www.baanjomyut.com/76province/center/phetchaburi/history.html
- กระโดดขึ้น ↑ สนอง ประกอบชาติ. เอกสารประกอบการเรียนวิชาท้องถิ่นของเรา เพชรบุรี. เพชรบุรี: เพชรภูมิการพิมพ์, 2534.
- กระโดดขึ้น ↑ พระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลแหลมผักเบี้ย อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี พ.ศ. ๒๕๔๙ เล่มที่ ๑๒๓ ตอนที่ ๘๐ ก ประกาศ ณ วันที่ ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ หน้า ๑
- กระโดดขึ้น ↑ ชายฝั่งทะเลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- กระโดดขึ้น ↑ ประชาสัมพันธ์การเรียกชื่อชายฝั่งทะเล ตั้งแต่บริเวณหาดเจ้าสำราญ อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี ถึง อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า"ชายฝั่งทะเลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช"
- กระโดดขึ้น ↑ สำนักบริหารการทะเบียน. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "รายงานสถิติจำนวนประชากร และบ้าน ทั่วประเทศ และรายจังหวัด ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2555." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://stat.dopa.go.th/xstat/pop55_1.html 2556. สืบค้น 1 เมษายน 2556.
- กระโดดขึ้น ↑ "พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งเทศบาลเมืองเพชรบุรี จังหวัดเพชรบุรี พุทธศักราช ๒๔๗๘". ราชกิจจานุเบกษา 52: 1708–1711. 10 ธันวาคม 2478.
- กระโดดขึ้น ↑ พระราชพงศาวดารเหนือ ระบุว่า เมื่อทรงไปครองอโยธยาแล้ว ทรงให้เจ้าอ้ายไปครองเมืองนคร เจ้ายี่ไปครองเมืองตะนาว และเจ้าสามครองเมืองเพชรบุรี
วัฒนธรรมของ นานาประเทศที่อยู่ในอาเซียน ในภูมิภาคอาเซียนที่มีลักษณะภูมิประเทศและวัฒนธรรมที่คล้ายคลึงกัน 4 ประเทศ
ตอบลบที่ผมจะยกตัวอย่างให้เพื่อนๆได้ทราบ ว่าเหตุผลที่ผม ได้ระดมนักลงทุนตลอดจนกลุ่มผู้ที่มีความสนใจในแผนธุรกิจของการจัดทำโครงการ senior Complex และผมได้เดินทางไปดูพื้นที่ตลอดจนหน่วยงานที่ให้การสนับสนุนและลักษณะวัฒนธรรมที่เหมาะสมจะเกิดขึ้นของโครงการในระดับอาเซียน
ประเทศแรกที่มีลักษณะวัฒนธรรมคล้ายคลึง
ประเทศที่ 1 ประเทศพม่า เป็นประเทศที่นับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนใหญ่ของประเทศ ภูมิประเทศ ลักษณะใกล้เคียงกับประเทศเพื่อนบ้านเช่นลักษณะภูมิประเทศใกล้เคียงกับประเทศไทย ใกล้เคียงกับประเทศกัมพูชาใกล้เคียงกับประเทศลาววัฒนธรรม ก็เช่นเดียวกันการละเล่นของเด็กจนถึงวัยผู้ใหญ่ และศาสนาก็จะมีศาสนาพุทธ เป็นศาสนาหลักของประเทศ ขนบธรรมเนียมประเพณี ประเทศพม่าก็เป็น มีขนบธรรมเนียมประเพณีที่สอดคล้องกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งสองประเทศที่จะยกตัวอย่างดังต่อไปนี้ สังคมการเป็นอยู่ของประชาชน ไม่แตกต่างจากประเทศไทยไม่แตกต่างจากประเทศกัมพูชาไม่แตกต่างจาก ประเทศลาว อันนี้สำคัญ และทางด้านเศรษฐกิจ ทางด้านเศรษฐกิจก็เช่นเดียวกันมีลักษณะคล้ายคลึงกันกับประเทศไทย ประเทศลาวและประเทศกัมพูชารายได้ของประชากร ต่อหัวก็มีความ ใกล้เคียงกัน การเจริญเติบโตของ เทคโนโลยี ก็มีความเจริญเติบโตใกล้เคียงกัน ความมั่นคงของประเทศชาติยึดมั่นด้วยกฎบัตรของอาเซียนซึ่งเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันอยู่แล้วอันนี้ยิ่งง่ายต่อการพัฒนา ในระบบมวลรวมของ การส่งเสริมการลงทุนในระดับ ภูมิภาค ตลอดจน บุคลากรที่จะให้บริการในโครงการ senior Complex เพื่อลดแล้วจะเป็นสมาชิกของ ประชาชนที่อยู่ในภูมิภาคของแต่ละประเทศซึ่งมีความอ่อนน้อมถ่อมตนมีการศึกษาที่ดีและ ชนชั้นแรงงานก็ ประหยัด ชนชั้นแรงงานนั้นจะมีค่าจ้างของแรงงานที่ค่อนข้างจะถูกที่สำคัญตอบสนองของนักลงทุนได้เป็นอย่างดี
ประเทศที่ 2 น่าสนใจในการลงทุนการก่อสร้างโครงการ senior Complex คือประเทศลาว หรือสปปลาว หรือในสากลที่เรียกระบาดสาธารณรัฐประชาชนลาว อันนี้เป็นประเทศที่มีประชากรจำนวนน้อย ซึ่งปัจจุบันนั้นมีประชากรหลักของประเทศอยู่ประมาณ 5 ล้านคนและสิ่งที่น่าสนใจที่สุดในการ ที่นักลงทุนจะเข้าไปพัฒนาโครงการซีเนียร์คอมเพล็กซ์เพื่อบริการประชาชนทั่วไปในภูมิภาคของเอเชียหรือเป็นเซ็นเตอร์การให้บริการของโลก ประเทศลาวเป็นประเทศที่มีภูมิประเทศที่คล้ายคลึงกันกับประเทศไทย ยิ่งโดยเฉพาะภูมิประเทศทางด้านภาคเหนือ เลขเด็ดเชียงรายเชียงใหม่ ลำพูนพะเยาจังหวัดน่านก็จะมีลักษณะพิเศษภูมิประเทศที่คล้ายคลึงกันกับประเทศลาวเป็นอย่างยิ่ง ลักษณะของบรรยากาศหรือภูมิอากาศนั้นจะเป็นภูมิอากาศที่ปลอดมลภาวะหรือมายโอโซนที่ดีสำหรับผู้อยู่อาศัย และวัฒนธรรมทางด้านพระพุทธศาสนาวัฒนธรรมทางด้านท้องถิ่น ประเทศลาวเป็นประเทศที่มีวัฒนธรรมทางด้านศาสนา